1. กาแฟทำมือต้องใช้อุปกรณ์การชงจำนวนมาก และต้องใช้ประสบการณ์ที่มีทักษะและความรู้มากมายเกี่ยวกับกาแฟกาแฟหูห้อยประหยัดขั้นตอนในการชงไปได้มาก
2. อุปกรณ์การชงกาแฟแบบทำมือมีมากเกินไป ทำให้ไม่สะดวกในการพกพาเมื่อออกไปข้างนอก ในขณะที่ถุงกาแฟหูมีน้ำหนักเบาและสะดวกซึ่งสะดวกต่อการพกพาเมื่อออกไปข้างนอก
3. เวลาในการต้มแตกต่างกันเวลาการกลั่นของกาแฟห้อยหูประมาณ 4 นาที และกาแฟด้วยมือภายใน 2 นาที
4. ระยะเวลาการชิมกาแฟแบบหูห้อยนั้นสั้นกว่าการคั่วเมล็ดกาแฟด้วยมือ เนื่องจากพื้นที่สัมผัสกับอากาศหลังจากบดเป็นผงกาแฟก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน และกลิ่นหอมของกาแฟสามารถเล็ดลอดออกไปได้ง่าย ซึ่งส่งผลต่อรสชาติ


อย่างน้อยที่สุดก็ต้องใช้เครื่องบดกาแฟและเครื่องสกัดกาแฟในการบดกาแฟ ในขณะที่กาแฟแบบมีหูก็ต้องใช้กาต้มน้ำร้อนเท่านั้นอย่างไรก็ตาม เมล็ดกาแฟสามารถทำปฏิกิริยากับอากาศได้ง่ายมาก กล่าวคือ เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันเมล็ดกาแฟที่บดเป็นผงละเอียดมีแนวโน้มที่จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันมากกว่า เนื่องจากพื้นที่ผิวจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และปฏิกิริยาออกซิเดชันจะทำให้รสชาติกาแฟหลุดออกไปและสูญเสียรสชาติกาแฟไปดังนั้นในแง่ของความสดใหม่ กาแฟบดสดต้องดีกว่ากาแฟหูห้อยด้วยเมล็ดกาแฟแบบเดียวกันและสภาวะการสกัดแบบเดียวกัน กาแฟที่บดสดใหม่จะมีรสชาติที่ดีกว่ากาแฟแบบหูห้อยเล็กน้อยในแง่ของความหอมแห้ง กลิ่นเปียก รสชาติและรสที่ค้างอยู่ในคอ ดีกว่ากาแฟหูห้อย
เวลาโพสต์: Mar-14-2023